กะทัดรัด พอเพียง การลงทุนที่คุ้มค่าบนพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม ขนาด สัดส่วน และพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่มากจนฟุ่มเฟือยภายใต้งบประมาณที่จำกัด แต่มีการคำนึงถึงการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และมุ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้อยู่อาศัย

แบบบ้านอยู่สบายประหยัดพลังงาน - ไอเดีย


แบบบ้านอยู่สบายประหยัดพลังงาน - ไอเดีย บ้านรูปแบบ A (บ้านเดี่ยวชั้นเดียว >> 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ)
        แบบบ้านอยู่สบายประหยัดพลังงาน - ไอเดีย บ้านรูปแบบ B (บ้านเดี่ยว 2 ชั้น >>  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ )
        แบบบ้านอยู่สบายประหยัดพลังงาน - ไอเดีย บ้านรูปแบบ C (บ้านเดี่ยว 2 ชั้น >> 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ )


โดยเป็นบ้านที่เน้นการออกแบบให้บ้านมีความเย็นและอยู่สบายโดยวิถีทางธรรมชาติ (Passive Cooling) เป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ยอมรับเรื่องการออกแบบ และมีการเตรียมการสำหรับการทำให้เกิดความเย็นด้วยวิธีกลไกและพึ่งพาเทคโนโลยี (Active Cooling) อันสอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน เพื่อเป็นส่วนประกอบลักษณะผสมผสานกันโดยก่อให้เกิดทางเลือกในการประหยัดพลังงานต่อภาระการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศในบ้านพักอาศัย โดยอย่างน้อยที่สุดให้มีการลดชั่วโมงของการทำงานในส่วนเครื่องปรับอากาศลง ซึ่งวิธีการที่มุ่งเน้น คือ การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม ซึ่งรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร

 แนวความคิดและหลักการออกแบบ

          แนวความคิดและหลักการออกแบบบ้านอยู่สบายประหยัดพลังงานทั้ง 3 รูปแบบนั้น เป็นการประยุกต์วิธีการประหยัดพลังงานผ่านแนวความคิดในการออกแบบไปสู่กระบวนการออกแบบทางสถาปัตยกรรม โดยมีผลปรากฏเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถสรุปผลการออกแบบได้ตามปัจจัยที่ต้องคำนึงด้านการประหยัดพลังงาน ได้ดังนี้ คือ

               1. การจัดวางตำแหน่งพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมในที่ดินขนาดเล็ก และคำนึงถึงการได้รับประโยชน์จากการระบายอากาศตามธรรมชาติ
               2. การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมเพื่อลดการนำความร้อน โดยพิจารณาเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างกันในส่วนของพื้นที่ที่ปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ
               3. การออกแบบรั้วโปร่งเพื่อการระบายอากาศที่ดีและการจัดเตรียมที่เก็บขยะที่ถูกสุขลักษณะ
 

               4. การออกแบบโดยใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อม
 

               5. การป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร
 

               6. การออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนใต้หลังคา
 

               7. ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำหรับอาคาร ซึ่งนอกจากการใช้หลักการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่จะช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารและสร้างความอยู่สบายแล้วนั้น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นฉนวนให้กับอาคาร การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เช่น หลอดประหยัดไฟประเภทหลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ และบัลลาสต์กำลังสูญเสียต่ำ (Low Loss Ballast) สามารถช่วยให้บ้านอยู่สบายประหยัดพลังงานทั้ง 3 รูปแบบ มีค่าไฟฟ้าลดลงได้ประมาณ 5,000-9,350 บาท/ ปี/ หลัง

            นอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมการในเรื่องความปลอดภัย ได้แก่ การกำหนดให้มีการติดตั้งตำแหน่งไฟฟ้าส่องสว่างที่รั้วบ้านในยามค่ำคืน รวมไปถึงการติดตั้งไฟฟ้าฉุกเฉินเผื่อกรณีไฟฟ้าเกิดดับกระทันหัน
 


ที่มา www2.dede.go.th