เนรมิตซอกเล็กซอกน้อยให้เกิดประโยชน์

 

เราเริ่มเรื่องกันตั้งแต่โถงพักคอยหน้าบ้านกันเลยค่ะ (เป็นพื้นที่เหลือที่นึกไม่ออกว่าจะใช้ทำอะไร) มุมนี้เมื่อเราเปิดประตูบ้านเข้ามาก็จะเจอเป็นด่านแรก เป็นผนังว่างขนาดเมตรกว่า ๆ 2 ผนังซ้ายขวา เลี้ยวไปด้านซ้ายจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ส่วนด้านขวาจะเป็นเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 แรกทีเดียวกะว่าจะปล่อยปละละเลยใช้เป็นที่วางแจกันและชั้นวางรองเท้า แต่คิดไปคิดมาคงไม่ดีแน่หากปราการด่านแรกของบ้านก็ดูไม่งามไปซะแล้ว

1. มุมใส่รองเท้า ดังนั้นผนัง 2 ด้านนี้จึงถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นมุมนั่งใส่รองเท้าสุดเก๋ ผนังส่วนบนเหนือม้านั่ง ที่ว่างอยู่ก็ Decorate ด้วยระแนงไม้สีบีชตีเว้นช่องกรุเป็นผนังสูง 2.00 ม. กันเลี่ยนด้วยการเจาะช่องสี่เหลี่ยมสำหรับวางกระถางดอกไม้เล็ก ๆ สร้างความสดชื่นสดใสก่อนออกจากบ้านและเข้าบ้านในแต่ละวัน
ส่วนม้านั่งด้านล่างดีไซน์ให้เป็นระแนงไม้สำหรับวางรองเท้า และเป็นม้านั่งที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้อย่างเสรีไม่ติดตาย หากเบื่อไม่ต้องการให้อยู่มุมนี้ย้ายไปเป็นชุดปาร์ตี้ก็ยังไหวค่ะ
ส่วนราคาตกแต่งสำหรับมุมใส่รองเท้า 2 ฝั่ง ตกลงกันไว้ก็ 18,000 บาท ไม่มากไม่น้อยแต่สวยขึ้นเยอะ

2. ห้องนั่งเล่นของครอบครัว มาถึงมุมนั่งเล่นของครอบครัว ซึ่งได้มีการเตรียมการแต่เนิ่น ๆ เพราะเราได้รับข่าวดีจากอินเด็กซ์ว่าจะลดราคาชุดโซฟาเข้ามุมที่หมายตาไว้ถึง 50% ดังนั้นโซฟาโมนาโคเข้ามุมสีครีม จากราคาเดิม 34,000 บาท จึงได้มาจับจองพื้นที่ห้องนี้ที่ราคาเพียง 17,000 บาท ซึ่งก็ต้องหาที่ทางเก็บโซฟาให้ปลอดฝุ่นอยู่หลายวัน เพราะทางร้านเฟอร์นิเจอร์สามารถเก็บให้เราได้ไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ใครที่ต้องการจับจองของดีราคาถูกแบบนี้ก็ต้องเผื่อเวลาเผื่อสถานที่กันให้ดี ๆ

3. กรุผนังปิดบังช่องเสา ตามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าเราจะมาแก้ปัญหาซอกเล็กซอกน้อยให้เกิดประโยชน์กัน ดังนั้นทั้งเสาที่โผล่ออกมาอย่างไม่จำเป็นและช่องเสาที่เป็นซอกแบบไม่รู้จะหาอะไรมาวางให้พอดีได้จึงถูกบิวท์ชั้นลงไปจนหมด ไม่ว่าจะเป็นผนังด้านที่ติดกับโซฟาซึ่งของเดิมเป็นเสาที่โผล่ออกมาแบบเป็นส่วนเกิน เราใช้การกรุผนังเพื่อปิดเสา และ Drop ผนังส่วนที่ไม่ใช่เสา ลงไปเป็นช่องสี่เหลี่ยมสำหรับใส่ชั้นกระจกโชว์ของเก๋ ๆ แทน
นอกจากโซฟาจากอินเด็กซ์แล้ว เราเลือกโต๊ะกลาง TOP กระจกสีชาขาสเตนเลส จากเอส.บี. เฟอร์นิเจอร์มาร่วมด้วย เนื่องจาก 75% ของบ้านใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ไปแล้ว ดังนั้นเพื่อกันความน่าเบื่อหน่าย สเตนเลสและกระจกจึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดค่ะ

4. สวยและทน ผนังอีกด้านที่เป็นซอกใหญ่ ๆ 2 ช่องจัดการบิวท์อินชั้นวางของลงไป ดีไซน์ตู้ส่วนล่างทำเป็นตู้บานเปิดหน้าบานไม้ทึบตีคิ้วไม้แนวนอนเหมือนกับที่นั่งใส่รองเท้าหน้าบ้าน ด้านหลังชั้นไม้ซ่อนไฟฟลูออเรสเซนท์ลงไปให้ชั้นไม้ดูมีมิติและน่าสนใจยิ่งขึ้น พื้นที่ส่วนกลางระหว่างชั้นทำเป็นไซด์บอร์ดทีวีจึงต้องกำหนดความลึกของตู้ไว้ที่ 60 ซม. (ต้องกำชับช่างไม้ให้เสริมโครงไม้เยอะๆ ด้วยนะคะ เพราะทีวีและข้าวของที่จะวางต่อไปในอนาคตมีไม่น้อยและไม่เบาแน่ๆ หรือถ้ากลัวไม่ปลอดภัยก็ดีไซน์เป็นขาสเตนเลสรับอีกชั้นได้เหมือนกัน แต่ต้องดันให้เสาเข้าไปลึก ๆ หน่อยจะได้ไม่เกะกะสายตา ) ซึ่งราคาของเฟอร์นิเจอร์เซตนี้ 25,000 บาท

5. ต่อเนื่องถึงมุมทำงาน อีกหนึ่งมุมของห้องนั่งเล่นที่ถูกแบ่งด้วยทางเดิน จัดเป็นมุมทำงานที่สามารถ Take View ไปยังสวนที่อยู่ด้านหน้าบ้านได้ ส่วนนี้เราทำโต๊ะเขียนหนังสือยาวตลอดแนวมีลิ้นชักเก็บของหน้าบานไม้ทึบ เราไม่เน้นชั้นวางของ เนื่องจากเป็นมุมทำงานที่ไม่ได้ใช้งานประจำ หากมีชั้นเยอะจะกลายเป็นรกได้และที่สำคัญเป็นส่วนที่อยู่หน้าบ้านปล่อยให้โล่งเพื่อมองสีเขียว ๆ ของต้นไม้จะน่าสนใจมากกว่าค่ะ ราคาบิวท์อินของโต๊ะทำงาน ไม่รวมเก้าอี้ 8,000 บาท

ทำงานสบาย ๆ ไม่ต้องเครียด หากจะหอบงานกลับมาทำที่บ้านมุมนี้ก็น่าสนใจ เพราะนอกจากจะทำงานไปชมสวนไปแล้วยังสามารถดูทีวีหรือฟังเพลงไปได้อย่างสบายใจอีกด้วย หรือจะใช้มุมนี้เป็นมุมสอนการบ้านเด็ก ๆ ก็ไม่เลวนะคะแต่คงต้องปิดอุปกรณ์สร้างความบันเทิงให้เรียบร้อยก่อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะไม่ว่าจะพื้นที่เล็ก ๆ แม้กระทั่งซอกมุม หากเราใส่ใจเราจะสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้งานในบ้านเราได้อีกโดยที่เราก็คาดไม่ถึงเลยทีเดียวค่ะ สำหรับยอดรวมค่าใช้จ่ายในการแต่งห้องนั่งเล่นและมุมต่าง ๆ ในบ้านครั้งนี้อยู่ที่ 91,700 บาท ใครสนใจมุมไหนเป็นพิเศษลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ


รายการสินค้าและงบประมาณ
1. โซฟารุ่นโมนาโคจากอินเด็กซ์ 17,000 บาท
2. โต๊ะกลางจากเอส.บี.เฟอร์นิเจอร์ 5,500 บาท
3. ไซด์บอร์ดทีวี+ชั้นโชว์ 25,000 บาท
4. ชั้นทำงาน 8,000 บาท
5. กรุผนังข้างโซฟา 9,000 บาท
6. ม้านั่งใส่รองเท้า+กรุผนัง 2 ฝั่ง 18,000 บาท
7. เก้าอี้ทำงาน 1,500 บาท
8. พรมจากแม่ฟ้าหลวง 2,200 บาท
9. โคมไฟตั้งพื้นจากยูนิแลมป์ 1,500 บาท
10. ของตกแต่ง 4,000 บาท
รวมงบประมาณ 91,700 บาท

บ้านตัวอย่าง : บ้านงามเจริญ พระราม 2