เหตุผลที่เป็นหม้อแปลงไฟฟ้า ก็เพราะหม้อแปลงเป็นที่รวมของประจุไฟฟ้า ซึ่งจะต่างกับเสาไฟฟ้าธรรมดาที่ทำหน้าที่แค่เป็นตัวผ่านของกระแสไฟฟ้า ผลกระทบจึงต่างกัน ในตำราฮวงจุ้ยจะอธิบายไว้ว่า หม้อแปลงไฟ แทนความหมายของ “ธาตุไฟ” การมีไฟอยู่หน้าบ้าน จะเผาผลาญโชคลาภไม่ให้ไหลเข้าบ้าน ทำให้บ้านนั้นขาดโชคลาภ นั่นเป็นเหตุผลแบบนามธรรม
แต่ถ้ามองตามตรรกะวิทยา การมีหม้อแปลงอยู่หน้าบ้านนั้น จะส่งผลเสียในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า เพราะเป็นจุดเสี่ยงในกรณีที่หม้อแปลงเกิดระเบิด บ้านที่อยู่ใกล้อาจเกิดเพลิงไหม้ได้ง่ายกว่าบ้านหลังอื่น
นอกจากนี้ ในเชิงของวิทยาศาสตร์ บริเวณรอบหม้อแปลงจะมีประจุไฟฟ้าแผ่กระจายออกมา คลื่นของไฟฟ้าถ้ามีกำลังแรงจะส่งผลต่อสุขภาพของคนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นได้ คล้ายๆกับคนที่วางทีวีอยู่ปลายเตียง คลื่นไฟฟ้าสถิตที่วิ่งออกมาจากหน้าจอทีวีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้นอน คลื่นไฟฟ้าจะเข้าไปรบกวนขั้วบวก-ลบในร่างกายทำให้เสียดุล ก่อให้เกิดโรคได้ง่าย
วิธีแก้ไขกรณีนี้ ซินแสบางคนใช้วิธีเขียนคำมงคลเป็นภาษาจีนไว้ที่เสาของหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีแก้เคล็ดอย่างหนึ่ง เหตุผลก็เพราะ เวลาออกจากบ้านแทนที่จะเห็นเสาไฟที่ไม่เป็นมงคล เมื่อมองเห็นคำมงคลจะได้รู้สึกดีมากกว่าเสีย
อีกวิธีหนึ่งให้ใช้น้ำแก้ ตามตำราฮวงจุ้ยระบุเอาไว้ว่า การจะแก้ธาตุ
ไฟ (ความร้อน) ได้นั้น จะต้องใช้ธาตุน้ำ (ความเย็น) แก้ บางซินแสถึงกับใช้วิธีให้ขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ บริเวณที่ตรงกับแนวหม้อแปลงไฟ เพื่อดึงหม้อแปลงลงน้ำ เพราะน้ำจะสะท้อนเงาเสาไฟ นั่นเอง
นอกจากนี้ ตำรายังระบุเอาไว้อีกว่า ห้องที่ตรงกับแนวของหม้อแปลงไฟ ไม่ควรจะเป็นห้องสำคัญ เช่น ห้องนอน เพราะจะส่งผลกระทบกับคนที่นอนใกล้ได้ ถ้าเป็นห้องพระจะดีที่สุด เนื่องจากพระหรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นธาตุไฟ จะรับกระแสคลื่นไฟฟ้าได้ เพราะเป็นกลุ่มธาตุไฟเหมือนกัน
แต่วิธีแก้ที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องย้ายหม้อแปลงไฟออกไปให้พ้นบริเวณบ้าน หรือไม่ก็ย้ายประตูรั้วหลบหม้อแปลงไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะต้องใช้เงินค่อนข้างมาก
ยังไง การมีหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่อยู่หน้าก็ไม่ดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะหาเหตุผลในเชิงใดก็ตาม การแก้ไขก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไงที่มี ถ้าไม่สามารถย้ายหม้อแปลงได้ ก็ต้องแก้ภายในบ้านของเราเอง แม้จะไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ร้อยเปอร์เซนต์แต่ก็ดีกว่า ไม่ได้ทำอะไรเลย จริงมั้ยครับ….
