The property
TYPE ทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น
SPACE 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มุมรับแขก มุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ระเบียงห้องนอน
LOCATION สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี

อารมณ์อบอุ่น

หลังจากอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ย่านเอกมัยได้ราว 4 ปี บุญชู และ ปารดา ลิ่มอติบูลย์ ก็ตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับมารดาที่หมู่บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเจริญกรุง ปารดาเอ่ยว่า "ตอนแรกอยู่คอนโดฯ ที่เอกมัยก็สะดวกดี แต่พอเรามีลูก (ชญาดา ปัจจุบัน 1 ปี 7 เดือน) แม่ก็เลยอยากให้หลานมาอยู่ใกล้ๆ บริเวณใกล้ๆ กัน ซึ่งที่นี่ก็เป็นโครงการที่อยู่ติดริมแม่น้ำ สวยดี พอได้มาอยู่แล้วก็ชอบบรรยากาศอบอุ่นดี” นอกจากการได้อยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวจะทำให้ทั้งคู่รู้สึกดีแล้ว บ้านที่ตกแต่งด้วยฝีมือของ นา - จันทนา ลิ่มอติบูลย์ น้องสาวคนเก่งของ บุญชู ก็ดูเหมือนว่า บ้านนี้จะยิ่งน่าอยู่ขึ้นไปอีก “ชอบสไตล์พี่นาอยู่แล้ว ดูจากเวลาพี่นาแต่งร้าน The Riya Shoppe ชอบสีที่พี่นาออกแบบ พี่นาแต่งบ้านออกมาได้น่ารักมาก” ปารดากล่าว

ห้องนั่งเล่น
จันทนานำชุดโซฟาเก่ามาบุใหม่โดยตั้งใจให้ด้านหลังเป็นสีฟ้าดูแปลกตา พื้นปาร์เก้สีน้ำตาลแดงของโครงการถูกทาทับด้วยสีครีม เก้าอี้เด็กสีน้ำตาลเข้มจากร้านแอนทีคถูกนำมาบุใหม่ให้กับหลานสาวตัวน้อยกรอบกระจกนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี ส่วนโคมไฟแก้วเป่า จันทนาซื้อมาจากประเทศฝรั่งเศสตอนไปงานแฟร์ โคมไฟสีเหลืองจากประเทศจีน กรอบรูปภาพสถาปัตยกรรมจากหนังสือเก่า ขาโต๊ะซื้อจากจังหวัดเชียงใหม่นำมาทาสีขาวด้าน วางด้วยหินด้านสีครีม

ด้วยความเป็นมืออาชีพของจันทนา เธอไม่เพียงแต่มีรูปแบบของตัวเองชัดเจน เธอยังต้องการที่จะใส่ความเป็นเจ้าของบ้านลงไปด้วยเพื่อให้บ้านหลังนี้สามารถตอบรับความชอบของเจ้าของบ้านได้จริง ๆ จันทนาอธิบายว่า “นาจะให้เขาเอาของโปรดมา ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือของส่วนตัว รวบรวมใส่แฟ้มมาดู เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าเขาชอบอะไร รวมทั้งสไตล์ที่ชอบจากแม็กกาซีนด้วย เขาก็เอาผ้าพันคอมาให้คือ สีฟ้ากับ สีชมพู เราก็จะแตกเป็นรายละเอียดมาจากตรงนั้น อย่างห้องนั่งเล่นสีเหลือง เขาก็เอารูปมาให้ดูว่าอยากได้อย่างนี้ คือต้องการให้ออกมาแล้วดูอบอุ่น”

ครัว
ชุดครัวเดิมเป็นสีน้ำตาลเข้ม จันทนาเปลี่ยนเป็นสีขาวครีมและติดวอลล์เปเปอร์ ใส่กรอบหน้าต่างไม้สีช็อคโกแลตตามที่บุญชูชอบ บริเวณนี้สามารถใช้นั่งกินอาหารเช้าหรือเสิร์ฟเวลามีงานเลี้ยง ครัวหนักเป็นส่วนต่อเติมออกไปด้านนอกโดยจะกั้นกระจกเพิ่มและติดฟิล์มกันความร้อน 3 ชั้น

ผ้าพันคอสีฟ้ากับสีชมพู ของ Ferragamo ที่ปารดาให้มาจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการตกแต่งบ้านหลังนี้ “คอนเส็พท์ของห้องนอนและมุมทำงานมาจากผ้าพันคอ เพราะลายบนผ้าเป็นลายสัตว์ป่าด้วย เลยออกมาเป็นคอนเส็พท์ซาฟารี ภาพพิมพ์ที่เลือกซื้อมาติดผนังก็เลยเลือกให้เข้ากัน” จันทนาอธิบาย

มุมโต๊ะรับประทานอาหาร
โต๊ะรับประทานอาหารเดิมทีเป็นโต๊ะทำงานในห้องทำงานของคุณพ่อ จันทนาเลือกนำมาใช้คล้ายเป็นที่ระลึก ขาโต๊ะทำเป็นสีช็อกโกแลตและตัดหินมาวางซ้อนด้านบน เก้าอี้ 6 ตัว ย้ายมาจากคอนโดฯ ของทั้งคู่ นำมาบุผ้าไหมเคลือบเทฟล่อนเพื่อกันไม่ให้น้ำซึม และซ้อนผ้าตาข่ายอีกชั้นเพื่อไม่ให้ผ้าไหมขาดง่าย กรอบรูปผ้าลายนกขนาดใหญ่เพื่อให้เข้ากันกับวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ คุณแม่ซื้อแชนดะเลียร์มาจากประเทศเชคให้เป็นของขวัญขึ้นบ้านใหม่เพื่อให้เห็นชัดว่าเป็นเก้าอี้ที่หัวโต๊ะและท้ายโต๊ะจันทนาเลือกใช้เก้าอี้ลายขวางทาสีช็อกโกแลตที่ขา

ในขณะเดียวกันกับที่จันทนานึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ บ้านหลังนี้ได้รับการต่อเติมเล็กน้อยเพื่อให้สอดรับกับความชอบของเจ้าของบ้านจันทนากล่าวว่า “เราใช้ฟังก์ชั่นแบบเดิมที่มี แต่ต่อเติมมุมทำงาน

ห้องกระจก
ห้องกระจกอยู่ติดกันกับห้องนั่งเล่น เน้นแต่งด้วยสีฟ้า “ตอนแรกยังนึกไม่ออกว่าจะทำห้องนี้เป็นสีอะไร พอดีไปเจอผ้าไหมที่มีสีฟ้าเป็นหลัก ก็เลยดึงโทนสีมาใช้กับห้องนี้ นาจะวางผ้าอีกชั้นหนึ่งบนผ้าไหมเพื่อกันแดด เพราะถ้าผ้าไหมตากแดดเยอะ ๆ จะกรอบ” จันทนาอธิบายถึงผ้าไหมผืนที่แขวนอยู่บนเพดาน เธอติดผ้าม่านทึบด้านนอกและผ้าโปร่งไหมสีฟ้าที่ด้านใน เพราะต้องการให้เห็นสีฟ้าโปร่งแสง นักออกแบบคนเก่งยังพูดถึงประโยชน์ที่ได้จากการติดกระจกที่ผนังว่า “เพราะที่นี่เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ เราแบ่งกำแพงกับอีกบ้านหนึ่ง ถ้าจะให้ดูเต็มต้องใช้กระจกสะท้อนเพื่อให้ดูมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น เวลาเดินขึ้นมาจากชั้นล่างจะมองเห็นเงาห้องสะท้อนในกระจกก่อน” เก้าอี้หวาย 4 ตัว มาจากโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกของคุณพ่อ หมอนอิงที่จันทนาเลือกผ้าและสั่งตัดเย็บเองทุกใบ ส่วนกรอบรูปผ้าก็มีที่มาไม่ธรรมดา “จริง ๆ แล้วเป็นผ้าออฟเสป็ค คือ พื้นที่เป็นสีขาวควรจะเป็นสีฟ้าซื้อมาราคาไม่แพงจากร้าน จิม ทอมป์สัน นำมาเข้ากรอบบนพื้นสีฟ้า และรูปนกก็ดูเข้ากับดอกไม้”

ในห้องนอนที่ชั้น 3 ห้องกระจกที่ชั้น 2 และครัวหนัก แต่โครงการนี้มีข้อดีตรงที่ จะเว้นพื้นที่ระหว่างบ้านให้เป็นพื้นที่สีเขียว บางโครงการจะเป็นหลังบ้านชนหลังบ้านเลย ที่นี่มองออกไปแล้วเป็นสวน แทนที่จะติด ๆ กันไป”

"สีที่ใช้ในบ้านนี้ จะเป็น Custom blended หมดเลย จะสั่งให้ช่างผสมตัวอย่างสีแบบเยอะ ให้ช่างทาบนผ้าใบ เราไปซื้อผ้าใบมาประมาณ 30-40 แผ่น และก็ไล่สี อย่างสีฟ้าก็จะมีฟ้าหลาย ๆ เฉด แล้วค่อยเลือก"

ห้องทำงาน
จันทนาทำที่นั่งติดกระจกตามที่ ปารดาชอบ และพื้นที่ด้านข้างยังใช้ประโยชน์ทำเป็นตู้เก็บของที่ทำจากไม้วีเนียร์ลาย bird’s eye ผ้าม่านเป็นผ้าลินินเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว โต๊ะวางของปูนจากร้านแอนทีค ภาพที่เลือกนำมาติดเป็นภาพเกี่ยวกับ costume history เพราะปารดาทำงานเกี่ยวกับเสื้อผ้า โต๊ะกลมที่ตั้งอยู่กลางห้องหรือ ‘โต๊ะพิซซ่า’ เดิมเป็นเก้าอี้หวายสีเข้ม จันทนานำมาทำสีใหม่

และดูเหมือนว่าเรื่องของการต่อเติมคงเป็นปัญหาเดียวในการตกแต่งบ้านหลังนี้ “ปัญหาที่เราเจอคือ ช่างก่อสร้างส่งงานไม่ตรงเวลาเราใช้เวลาตกแต่งบ้านนาน 9 เดือน เพราะเดือนเมษายน ช่างจะหยุดยาวหายไปเป็นเดือน ผู้รับเหมาฝีมือดี ราคาไม่แพงก็หายาก เราใช้เวลาเทียบฝีมือกับราคาด้วย” ปารดาพูด และจันทนาเสริมว่า “อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องใช้เวลานานคือ เราต้องการจะใช้เฟอร์นิเจอร์เก่าด้วยก็ต้องเอามานั่งจับคู่กัน หรือบางชิ้นก็ต้องเอาไปดัดแปลง อย่างโต๊ะพิซซ่าที่นากับพี่ชายใช้ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ นั่งเรียนพิเศษ ก็เอามาให้หลานนั่งต่อ” และที่เรารู้มามากกว่านั้น คือ จันทนาจะใช้เวลาในการเลือกผ้าเองทุกชิ้นไม่ว่าจะสำหรับ ปลอกหมอน หรือผ้าม่าน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยอย่างใจ

นอกจากจะได้รับการใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว บ้านหลังนี้ยังโดดเด่นที่การเลือกใช้สีได้อย่างกลมกลืนและอ่อนหวาน “อย่างสีที่ทาผนังใช้สำหรับบ้านนี้จะเป็น Custom blended หมดเลย จะสั่งให้ช่างผสมตัวอย่างสีแบบเยอะ ให้ช่างทาบนผ้าใบ เราซื้อผ้าใบมาประมาณ 30-40 แผ่น แล้วก็ไล่สี อย่างสีฟ้าก็จะมีฟ้าหลาย ๆ เฉด แล้วค่อยเลือก” จันทนาบอกถึงวิธีการเลือกสีหวานให้กับบ้าน

ห้องเด็ก
ชุดของลูกสาว ชญาดา เมื่ออายุ 6 เดือน ถูกนำมาเข้ากรอบติดผนังโต๊ะชาสำหรับเด็กที่จันทนาซื้อมาจากประเทศอเมริกา ตู้เก็บของทำจากหวายถูกเปลี่ยนเป็นสีชมพูสำหรับเก็บของเล่น ห้องนี้ปูพรมลายก้างปลา “ที่ปูพรมเพราะเวลาเดินเข้ามาจะนุ่มเท้า ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เวลาเด็กล้มก็ไม่เป็นไร” จันทนาอธิบาย

ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น คือ ปารดาได้บ้านในสไตล์ที่ถูกใจ และยังมีห้องที่เธอชอบมากเป็นพิเศษด้วย “ห้องที่ชอบคือห้องหนังสือ เพราะเรามีหนังสือเยอะ ก็จะอยากได้ที่เก็บหนังสือ แล้วก็อยากได้ที่นั่งที่ติดกระจก” และก็ไม่ใช่เพียง บุญชู และปารดา ที่ชื่นชอบบ้านหลังใหม่นี้ ปารดาเล่าถึงลูกสาวตัวน้อยว่า “ตอนย้ายเข้ามา จะชอบมาก ร้อง ว้าว! ชอบเก้าอี้เด็กในห้องของตัวเองมาก”

เวลาเย็นที่แดดร่มลมตก สองแม่ลูกจะชอบออกไปเดินเล่นริมแม่น้ำ “คนในหมู่บ้านนี้น้อย ออกไปเดินเล่นที่สวนก็จะรู้สึกเหมือนเป็นสวนของตัวเอง สงบ” ปารดากล่าว เราคงต้องยอมรับว่า ทั้งการตกแต่งและบรรยากาศรอบบ้านหลังนี้สร้างความรู้สึกอบอุ่น อารมณ์ดี และสบายใจซึ่งเจ้าของบ้านก็เห็นพ้องกัน ด้วยคำตอบว่า “ไม่อยากได้อะไรแล้ว แค่นี้มีความสุขแล้ว”

ติดตามผลงานของ จันทนา ลิ่มอติบูลย์ เพิ่มเติมได้ที่ www.riyashoppe.com

เคล็ดลับการเข้ากรอบรูปของ จันทนา ลิ่มอติบูลย์
• อย่างแรกคือให้ดูว่าห้องนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง อย่างห้องผนังสีช็อคโกแล็ตตัดด้วยผ้าม่านกุ๊นขอบขาวกรอบรูปก็เลยขอบขาวด้วย
• สัดส่วนของกรอบรูปต้องได้กับขนาดของสิ่งที่อยู่ในห้อง ถ้าผนังใหญ่โล่งภาพก็ต้องใหญ่ตาม
• สุดท้ายคือต้องดูสะดุดตา ชัดเจนเพราะถ้าไม่สะดุดตา ก็จะดูเหมือนหายไป ติดหรือไม่ติดก็มีค่าเท่ากัน

Home truths

แนวเพลงที่ชอบ
คลาสสิกและแจ๊ซซ์

สถานที่ท่องเที่ยว
เมืองเวนิซและเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

หนังสือที่ชอบ
The Davinci Code

เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรด
ชอบโซฟาบนห้องนอนเดิมทีเป็นโซฟาหนังสีดำเอามาเปลี่ยนเป็นผ้าเพราะนั่งสบาย และชอบ ตรงโต๊ะพิซซ่า เอาไว้เล่นกับลูกและทำงานไปด้วย

สวน
เพื่อความร่มรื่นในสวน จันทนาซื้อต้นไม้มาแต่งเพิ่มจากตลาดจตุจักร โต๊ะจากร้านแอนทีค “ที่ชอบโต๊ะนี้เพราะรูปทรงกับลายฉลุดูไม่เหมือนใคร นี่เป็นอีกข้อดีของการใช้แอนทีค หรือการนำของเก่ามาดัดแปลง” จันทนาเสริม ส่วนมือจับที่มีสีทองของร่มก็เข้ากับแนวของบ้าน

1 แจกันดอกไม้ ราคา 680 บาท จาก Coquette
2 ตู้เตี้ยทรงวงรี ราคา 39,000 บาท จาก Bellitas
3 ขวดเครื่องแก้ว ราคา 1,350-1,800 บาท จาก Geo
4 เชิงเทียนเหล็กเพ้นท์ขาว ราคา 2,200 บาท จาก Incredible
5 กรอบรูปสีขาว ราคา 3,500 บาท และกรอบรูปกรอบสอง ราคา 4,900 บาท จาก Pictory
6 นาฬิการูปปั้น ราคา 1,500 บาท จาก Catherine Hyde
7 เหยือกน้ำ ราคา 5,900 บาท จาก Geo
8 หมอนอิง ใบละ 3,550 บาท จาก Mobillia