แต่...นับจากนี้ไป บ้านทรงไทยจะหาดูได้ไม่ยากอีกต่อไป...จากน้ำพักน้ำแรงของอดีตนายตำรวจวัยกลางคนผู้หนึ่ง เขามีนามกรว่า “ด.ต.สุชิน เปรื่องชะนะ” ชาวบ้านอำเภออัมพวา...อำเภอแห่งความคลาสสิคอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยในจังหวัดสมุทรสงคราม แม้มันจะเป็นแค่เพียงบ้านทรงไทยจำลองเท่านั้นก็ตามที ที่จังหวัดนี้ชาวท้องถิ่นยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งวิถีชีวิตแบบริมน้ำ, เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมในสวนตาล รวมทั้งสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทยที่งดงามและเปี่ยมคุณค่า ด้วยความเข้มแข็งในการดำเนินชีวิตแบบนี้นี่เอง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่นี่ |
ดาบตำรวจหนวดเข้มผู้นี้เป็นบุคลากรสำคัญอีกคนหนึ่งในการทำให้ “โฮมสเตย์แห่งแม่กลอง” ฮิตติดลมบนด้วยคอนเซ็ปต์ “นอนบ้านทรงไทย ทานอาหารไทย ท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตแบบไทย ๆ" ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เขาหลงใหลบ้านทรงไทยภาคกลางมากขึ้นและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของงานใหม่ของเขา...งานที่เกิดขึ้นเพราะความรักจริง ๆ “พอมาถึงปี’44 โฮมสเตย์ของเราอยู่ตัวแล้ว มีแขกมาพักเยอะ มีการประชาสัมพันธ์ทางทีวีมากขึ้น นักท่องเที่ยวพูดกันปากต่อปากเยอะ เราก็มาคิดว่าจะทำสินค้าตัวใหม่มาหารายได้เพิ่มให้กับชุมชนดี ก็ตกลงกันว่าทำเป็นบ้านทรงไทยจำลอง” ด.ต.สุชินย้อนความหลัง แต่ปัญหาคือ “ใครล่ะจะเป็นคนทำ?” เพราะจะว่าไปแล้วงานช่างไม้แบบตอกตะปูเปรี้ยง ๆ ทุกคนก็คงทำกันได้ แต่ว่าการทำให้ออกมาเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ (สวย ๆ ด้วย) คงยากที่จะหาใครมาทำได้ ซึ่งก็เป็นดาบตำรวจมาดเข้มผู้นี้นี่เองที่อาสาเป็นหน่วยกล้าตาย (สมชายชาติตำรวจจริง ๆ) ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเขายังไม่แน่ใจว่าจะทำได้ด้วยซ้ำ |
“ตอนนั้นลองทำกันดูประมาณ 6-7 คน แต่ทำ ๆ ไปเริ่มหายไปหมด...เหลือผมคนเดียว” ดาบตำรวจหนวดงามว่า แม้จะไม่มีทักษะด้านงานประดิษฐ์เลย แต่เขาก็ใช้ความพยายามจนสร้างบ้านจำลองหลังแรกได้จนสำเร็จจากกล่องกระดาษ (ระบุให้ชัดเจนลงไปเลยก็คือกล่องเหล้า) ความตั้งใจแบบเกินร้อยครั้งนี้แทบจะสูญสลายไปเลยเมื่อเขานำไปปรึกษากับช่างผู้เชี่ยวชาญในการสร้างบ้านทรงไทย และผลออกมาว่า “เขาสอบตก!” ด.ต.สุชินย้อนความหลังให้ฟังว่า “พอไปให้ช่างดู เขาบอกว่ายังไม่ถูกหรอกและแนะนำว่าองศาเอียงไม่ได้ที่บ้าง, ปั้นลมอ่อนช้อยไม่พอบ้าง, เตี้ยไปบ้าง, กว้างไปบ้าง ฯลฯ” ข้อผิดพลาดในครั้งนั้นเป็นครูชั้นดีของด.ต.สุชิน หลังจากนั้นเขาลองผิดลองถูกอีกถึงครึ่งปีและในที่สุดบ้านทรงไทย (ภาคกลาง) จำลองของเขาก็เริ่มประสบความสำเร็จจนมีการจดทะเบียนตั้งเป็น “กลุ่มหัตถกรรมบ้านทรงไทยอัมพวา” และได้รับการตอบรับอย่างดีในงานจำหน่ายสินค้าโอทอป กลายเป็นรายได้เสริมให้กับคนในชุมชนไปด้วย |
บ้านจำลอง “เวอร์ชันประสบความสำเร็จ” เปลี่ยนจากการทำด้วยกล่องกระดาษมาใช้ “ไม้สักทอง” แทน โดยมีจุดเด่นคือ บ้านทุกหลังเป็นการจำลองมาจากบ้านที่มีอยู่จริงทั้งสิ้น ที่สำคัญคือด.ต.สุชินเก็บรายละเอียดทุกอย่างของบ้านไว้อย่างครบครัน จนพูดได้ว่าสามารถนำมาใช้ศึกษาถึงภูมิปัญญาการสร้างบ้านแบบชาวไทยโบราณได้จริง ๆ “ก่อนที่เราจะผลิตบ้านทรงไทยขึ้นมา ผมจะไปดูบ้านจริงก่อน ดูว่าสวยยังไง, แปลกยังไง ดูรายละเอียดต่าง ๆ ของเรือนซ้าย, เรือนขวา, บันไดลงน้ำหน้าบ้าน ฯลฯ โดยถ่ายรูปมา อันไหนถ่ายไม่ได้ก็สเก็ตช์ภาพเอา กลับมาก็นั่งเขียนแบบ เทียบอัตราส่วนต่าง ๆ แล้วเขียนลงในกระดาษ” ด.ต.สุชินเล่า บ้านทรงไทยภาคกลางจำลองที่ดาบตำรวจหนวดงามประดิษฐ์ขึ้นเป็นหลังแรกคือบ้านของกำนันธวัช...บ้านหลังแรกที่ใช้ทำเป็นโฮมสเตย์ของกลุ่มนั่นเอง หลังจากนั้นก็มีแบบบ้านทรงไทยภาคกลางหลังอื่น ๆ ออกมาอีกมากมาย บางหลังมีต้นแบบในจังหวัดสมุทรสงครามเอง บางหลังมีต้นแบบจากจ.สุพรรณบุรี บางหลังก็โน่นกาญจนบุรี เป็นต้น |
ปัจจุบันนอกจากบ้านทรงไทยภาคกลางแบบครบชุดหลาย ๆ เรือนแล้ว ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มยังมีบ้านทรงไทยจำลองที่ให้ลูกค้านำไปประกอบเอง เพื่อเรียนรู้ส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้านทรงไทย รวมทั้งยังมีศาลาไทยจำลองประกอบแก้วคริสตัลที่ทำเป็นลวดลายพระประจำวันเกิดต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้านำไปประดับบ้านเสริมสร้างสิริมงคลอีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจอยากมาเรียนวิชาการทำบ้านทรงไทยจำลอง อดีตตำรวจวัยกลางคนท่านนี้ก็พร้อมถ่ายทอดวิชาให้แบบเต็มความสามารถด้วย เพราะจะว่าไปจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาก็คือความต้องการอนุรักษ์บ้านทรงไทยให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นต่อไปซะมากกว่า...แม้จะเป็นแค่ในรูปแบบบ้านจำลองก็ตาม “ผมต้องการอนุรักษ์งานสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทยแบบโบราณและภูมิปัญญาท้องถิ่นของช่างโบราณที่ไม่ต้องใช้ตะปูหรือจะใช้ก็ใช้น้อยมาก ทุกชิ้นส่วนใช้วิธีการเข้าเดือย, เข้าสลักหมด บานประตู-บานหน้าต่างก็ไม่ได้ใช้บานพับ มันเป็นงานฝีมือของช่างโบราณที่สมัยก่อนเครื่องมือไม่มีด้วยซ้ำ” ด.ต.สุชินปิดท้าย |
