สุดยอดโรงแรมแนวสร้างสรรค์และเซ็กซี่

การออกแบบตกแต่งห้องพักของโรงแรม นับเป็นงานที่น่าสนุกสนานและท้าทาย มากกว่างานออกแบบที่พักอาศัยแบบอื่นๆ เพราะการออกแบบโรงแรม เป็นการออกแบบที่พักแบบชั่วคราว จึงมีโจทย์และแนวทางการออกแบบ แตกต่างไปจากการออกแบบที่พักอาศัยที่ถาวรเช่นบ้าน

โรงแรมต้องการสร้างจุดขายของตนเอง เพื่อให้โดดเด่นกว่าโรงแรมอื่นๆ และการเข้าพักของแขก ก็ชั่วครั้งชั่วคราว การออกแบบจึงแทบไม่มีข้อจำกัดเลยก็ว่าได้ จะให้ตื่นเต้น โลดโผน พิสดาร ยังไง พอได้เวลาปรับปรุง (ประมาณ 5-8 ปี) เขาก็เปลี่ยนใหม่หมดได้ เพราะใช้งานคุ้มค่าแล้ว ไม่เหมือนบ้านที่เราอยู่ ต้องอยู่ทุกวัน จะมาเปลี่ยนเรื่อยๆก็จนกันพอดี เรามาดูที่เขาออกแบบกันดีกว่า

1. Propeller Island Hotel ออกแบบห้องเหมือนกับตีลังกา กลับล่างขึ้นบน ให้แขกมาพักรู้สึกตัวเหมือนเป็นค้างคาวห้อยหัว

2. Propeller Island Hotel ออกแบบห้องนี้สำหรับคอหนัง vampire โดยเฉพาะ มาสัมผัสความรู้สึกในการนอนในโลงสักคืน หรือใครอยากไปนอนสะเดาะเคราะห์แบบฝรั่งดูบ้างก็ไม่เลว

3. Propeller Island Hotel ในเบอร์ลิน แต่ห้องนี้สงสัยคนออกแบบมาได้แรงบันดาลใจจากโรงแรมม่านรูดในบ้านเรา แต่เล่นกระจกเงาแบบรอบห้องเลยไม่ทันนอนเลย ก็ตาลายแล้ว

4. Propeller Island Hotel ห้องนี้เล่นเป็นกรงเหล็กยกพื้น ไม่รู้จะเหมาะกับพวกชอบ โชว์ออฟ หรือพวกซาดิสด์

5. Propeller Island Hotel ห้องนี้ออกแบบเป็นคุก สีสันสดใส กล้วคนเข้าไปพักแล้วจะหดหู่เกินไป แถมยังอนุญาตให้พังกำแพงหนีได้ด้วย สำหรับศิษย์เก่ามารำลึกความหล้ง รึไง?

6. Propeller Island Hotel ห้องคนบ้าสัญลักษณ์หรือ logo มี logoต่างๆ กว่า 200 แบบ ออกแบบด้วยสีขาวดำ เป็นบล็อกๆ แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นบล็อกด้วยเช่นกัน สามารถพลิกไปมา และจัดเรียงได้ใหม่ตามใจชอบ สำหรับคนอยู่ไม่สุกทั้งหลาย

7. The Arte Luise Kunsthotel หรือ Art Hotel เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเบอร์ลิน ออกแบบตกแต่งภายในด้วยศิลปะแนวต่างๆ ที่ศิลปินหลายๆคนแยกกันออกแบบ ซึ่งเมื่อคุณเข้าพักที่ห้องใด ศิลปินที่ออกแบบห้องนั้น ก็จะได้ส่วนแบ่งรายได้ไปด้วย (ผมเลยสงสัยว่าตอนแรกนั้น ศิลปินได้รับค่าตัวรึเปล่า ถ้าได้รับแล้วมาแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้อีก ก็ยุติธรรมดี แต่ถ้าตอนแรกไม่ให้แล้วค่อยมาหักเปอร์เซ็นต์ให้ทีหลังนี่ ฟังดูคล้ายๆเมืองไทยชอบกล)

8. The Gladstone Hotel อยู่ในแคนาดา มีแนวทางคล้ายที่ Kunsthotel ในเบอร์ลินเช่นกัน แต่มีข้อแตกต่างที่ มุ่งบริการลูกค้าที่เป็นเลสเบี้ยน เป็นพิเศษ

9. The Max Hotel อยู่ใน Seattle ก็ใช้ศิลปินมาออกแบบเช่นกัน แต่ที่นี่ เขาเน้นศิลปินของท้องถิ่นเป็นหลัก และไม่จำกัดงานศิลป์ที่ตกแต่งเฉพาะภาพหรืองานกราฟฟิก แต่พวกประติมากรรมก็นำมาใช้ตกแต่งร่วมด้วย แต่เขาหัวการค้าไม่เบา ของตกแต่งทั้งหมดที่นี่ ขายด้วยครับ

10. สุดท้ายเป็นโรงแรมในญี่ปุ่นชื่อ The Benesse Art Site Naoshima เป็นโรงแรมที่ตกแต่งไม่หวือหวาเหมือนกับที่อื่น เพราะไม่แน่ว่าแต่งเก๋ๆแล้วจะนอนหลับสบายหรือไม่ ที่นี่เขาจึงสร้างพิพิธภัณฑ์ไว้ในโรงแรมเสียเลย ตัวโรงแรมทำเหมือนเป็นแกลลอรี่สมัยใหม่ ให้แขกผู้มาพักได้ชื่นชมงานศิลปะและพักผ่อนไปในเวลาเดียวกัน