ได้จังหวะพอดีเลยครับ ผมเองก็เพิ่งจะเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาที่บ้านเป็นกระเบื้องว่าวเหมือนกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกระเบื้องว่าวกันสักนิดดีกว่าครับ 
 
“กระเบื้องว่าว” คือ กระเบื้องรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด หน้าตาเหมือนว่าวปักเป้า ทำจากซีเมนต์อัดขึ้นรูป นิยมใช้มุงหลังคาของอาคารทรงโคโลเนียลหรือปั้นหยามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันมีผู้ผลิตเจ้าใหญ่ คือ “กระเบื้องว่าวซีกรีต” ผลิตจากคอนกรีตอัดแรงด้วยเครื่องไฮโดรลิกแรงดันสูง ทำให้เนื้องกระเบื้องแน่น ไม่มีรูพรุน อัตราการดูดซึมน้ำต่ำกว่า10 เปอร์เซ็นต์ เคลือบหน้าด้วยสีอะคริลิก (ในแบบแผ่นสี) หรืออะคริลิกยูรีเทน (ในแบบสีธรรมชาติ) เนื่องจากผลิตด้วยเครื่องจักรจึงมีขนาดมาตรฐานเท่ากันทุกแผ่น ที่สำคัญมีการทำคันกันน้ำย้อนที่รองสันใต้กระเบื้อง เนื่องจากรูปทรงของกระเบื้องว่าวทำให้มีโอกาสที่น้ำฝนจะไหลย้อนตามรอยต่อได้ง่ายกว่าหลังคาทั่วไป ขนาดที่นิยมคือ  9X9 นิ้ว (ราคาแผ่นละ 13 บาท) และขนาด 13X13  นิ้ว (ราคาแผ่นละ 16 บาท) ส่วนค่าแรงในการปูประมาณตารางเมตรละ 250 บาท
 
ข้อควรรู้ในการปูกระเบื้องว่าว
1. องศาของหลังคาที่ใช้ปูจะต้องมีความลาดชันมากกว่าการปูกระเบื้องทั่วไป คือตั้งแต่ 30 องศาขึ้นไป
2. จันทันไม้หรือเหล็กต้องมีระยะประมาณ 1 เมตรต่อตัว และแป (ระแนง) ต้องมีระยะห่าง 14-15 เซนติเมตรต่อตัว (สำหรับกระเบื้องขนาด 9 นิ้ว) และ 19-20 เซนติเมตรต่อตัว (สำหรับกระเบื้องขนาด 13 นิ้ว) 
3. เพื่อความมั่นใจควรใช้วัสดุรองที่ด้านล่าง อาทิ แผ่นสังกะสีหรือสเตนเลส เพื่อป้องกันการรั่วซึมอีกชั้น
4. การปูกระเบื้องว่าวจะเริ่มปูจากกึ่งกลางไปหาริม และจากด้านล่างไปยังด้านบน

นอกจากนี้ยังมีกระเบื้องไอยรา ของเครือซีเมนต์ไทย และกระเบื้องเจียระไน ของตราเพชร ซึ่งให้อารมณ์คล้ายกระเบื้องว่าวโบราณเช่นกัน แต่การวางแปจะมีระยะต่างจากกระเบื้องว่าวแบบเก่าคือต้องมีระยะห่าง 20 เซนติเมตรต่อตัว ราคาประมาณแผ่นละ 68 บาท ค่าแรงในการปูประมาณตารางเมตรละ 500 บาท
 
ดังนั้นถ้าคุณสายัณห์ใช้โครงสร้างหลังคาเดิมล่ะก็ ผมแนะนำให้ใช้กระเบื้องว่าวซีกรีตน่าจะเหมาะสมกว่าครับ

* ขอบคุณคุณกิตติพงศ์ กรินพงศ์ โทรศัพท์ 08-5917 – 3766 และบริษัทสินพงศธร จำกัด โทรศัพท์ 0-2511 – 3559 เอื้อเฟื้อข้อมูล