"บ้านสวนเปี่ยมสุข" อบอุ่นด้วยความรัก


สมาชิกในบ้าน
บ้านหลังใหญ่นี้เป็นที่อยู่อันแสนอบอุ่นของครอบครัว "สันติภาษ" ซึ่งสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความพิถีพิถันเป็นพิเศษ สมาชิกประจำบ้านประกอบด้วย
น.พ.สมบัติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัว , พ.ญ.พิมพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกุมารแพทย์ ที่ปัจจุบันหันมาเปิดคลินิกเป็นของตัวเองชื่อ
"อ้อมใหญ่รวมการแพทย์" และลูกๆ อีก 2 คน คือ น้องนัท...ณัฐพร ลูกสาวตนโต กับน้องเบนซ์...บริวัฒน์ ลูกชายคนเล็ก

บ้านใหม่ต้องริมน้ำ
พื้นเพเดิมของคุณหมอสมบัติที่มีบ้านติดริมแม่น้ำแถววัดดอนหวาย จึงเป็นเหตุให้คุณหมอรักและผูกพันธ์กับสายน้ำ บ้านหลังใหม่ที่จะสร้างจึงเจาะจงให้อยู่ติดริมแม่น้ำ
ให้ได้ โดยทำการตระเวนหาที่ดินในลักษณะที่ต้องการอยู่เป็นนานสองนานกว่าจะมาลงเอยกับที่ดินแปลงนี้ ซึ่งก็อยู่ในแถบบ้านเกิดพอดี เนื้อที่เต็มๆ ของที่ดินแปลงนี้มี
5 ไร่ครึ่ง และทางคุณหมอแบ่งให้น้องไป 2 ไร่ เหลือที่เป็นส่วนบ้านของคุณหมอ 3 ไร่ครึ่ง โดยก่อสร้างเป็นบ้าน 2 ชั้น สไตล์ Contemporary ด้านหน้าบ้านหันหน้าให้แม่น้ำท่าจีน
ส่วนด้านหลังเป็นสวนมะม่วง และด้านข้างก็เป็นบ้านของน้องชาย ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวมตกแต่งประมาณ 2 ปี และเพิ่งแล้วเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมา

สร้างเขื่อนหนีน้ำร่วมปี
จากการที่บ้านสร้างติดริมแม่น้ำจึงก่อเกิดปัญหาให้ต้องตามแก้ไขมากมาย เริ่มตั้งแต่การสร้างเขื่อนเพื่อกั้นน้ำ โดยการนำหินมาเรียงกันเป็นชั้นแน่นๆ
ด้วยความยากลำบาก เพราะต้องสั่งหินบรรทุกมาจากจังหวัดราชบุรี ใช้การขนส่งทางเรือ เพราะที่ดินแถบนี้ไม่มีถนนตัดผ่าน เข้า-ออกได้เพียงทางเดียว
คือทางน้ำเท่านั้น โดยขั้นตอนนี้คุณหมอจะต้องลงมาควบคุมดูแลงานเองทั้งหมดไม่ว่าจะดึกดื่นค่ำคืนแค่ไหน เพราะหากช่างไม่ละเอียด ก่อสร้างบ้านไปแล้วอาจเกิด
ดินทรุดได้ จะรื้อถอนซ่อมแซมภายหลังก็ยิ่งยากลำบากกว่า และช่วงเวลาในการเรียงชั้นหินจะทำได้ก็เฉพาะตอนเวลาที่น้ำลดเท่านั้น
เสร็จจากสร้างเขื่อนก็ต้องมาทำการถมที่ซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลน ดินเหนียว ผิวหน้าดินก็เป็นท้องร่องจึงยากต่อการถม การตอกเสาเข็มก็จะต้องใช้การคำนวณพื้นผิวชั้นดินอย่างละเอียดถี่ยิบ
เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงของบ้าน แม้กระทั่งการออกแบบกว่าที่จะออกมาเป็นบ้านหลังนี้ได้มีการเขียนแบบและแก้ไขปรับเปลี่ยนแบบร่วม 12 ฉบับ
เรียกว่าให้ความพิถีพิถันอย่างมากในการสร้างบ้านหลังนี้ และนี่ก็เป็นเหตุให้บ้านหลังนี้ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานพอดู

จากตึกแถวสู่บ้านหลังงาม
ด้วยขนาดของครอบครัวที่สมาชิกในบ้านเจริญเติบโตขึ้นตามวัย บ้านหลังเดิมแถวบิ๊กซี อ้อมใหญ่ ซึ่งเป็นตึกแถวขนาด 3 ห้อง 3 ชั้นครึ่ง บริเวณชั้น 1-2
เปิดเป็นคลินิค ส่วนที่อยู่อาศัยใช้พื้นที่ชั้น 3 ก็เริ่มมีขนาดเล็กลง ประกอบกับความต้องการของลูกๆ ที่อยากได้บ้านที่มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ได้บ้าง
คุณหมอจึงเริ่มคิดที่จะขยับขยายและเริ่มดำเนินการต่างๆ เรื่อยมา จนก่อเกิดเป็นบ้านสวยหลังนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นที่รวบรวมความสุข
ความสะดวกสบายทุกอย่างไว้ได้อย่างครบครัน และตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างครบถ้วนโดยเฉพาะลูกๆ

ครบฟังก์ชันเหมือนอยู่ในเมือง
จากสถานที่ตั้งของบ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในสวนและห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร จึงเป็นโจทย์ให้คุณหมอคิดที่จะสร้างความสะดวกสบายและความบันเทิงต่างๆ
ให้กับลูกๆ อย่างครบครัน เพื่อให้ลูกๆ รู้สึกว่าเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วไม่ได้ขาดอะไร และไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกเพื่อหาสิ่งต่างๆ เหล่านั้น
บ้านหลังนี้จึงครบไปด้วยองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และศาลาริมน้ำที่ลูกๆ ชอบพาเพื่อนๆ มาปาร์ตี้
ว่ายน้ำ เล่นเจ็ตสกีกันอย่างสนุกสนาน และบ้านหลังนี้ยังเป็นเหมือนบ้านพักต่างอากาศที่ไว้รองรับแขก ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ที่จะแวะเวียนกันมาพักผ่อน
สร้างความครื้นเครงเกือบทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์บ้านจะค่อนข้างเงียบ เพราะจะมีแต่ 2 คุณหมอ ที่อยู่บ้าน ส่วนลูกๆ
จะอาศัยนอนที่คลินิกกับพี่เลี้ยงซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนในกรุงเทพฯ จะกลับเข้าบ้านก็คือเย็นวันศุกร์

ตกแต่งเรียบง่าย ราคาประหยัด
การตกแต่งภายในของบ้านนั้นเจ้าของบ้านเน้นให้บ้านดูโปร่งด้วยประตูหน้าต่างทุกบานของห้องแต่ละห้องให้เป็นกระจกใสบานใหญ่ที่สามารถมองออกไปแล้ว
เห็นธรรมชาติภายนอก ทั้งท้องฟ้า ต้นไม้ และที่เน้นมากคือแม่น้ำ เพื่อสร้างความรื่นรมย์ให้กับผู้อยู่อาศัย การลื่นไหลถึงกันของพื้นที่แต่ละส่วนก็ใช้ประตูบานพับ
เพื่อไม่ให้บ้านดูแคบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นบิวท์อิน จะมีบางชิ้นที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสั่งทำขึ้นมาเอง โดยเน้นวัสดุที่เรียบง่ายและราคาไม่แพงมาก
นักแต่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และสามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเกิดการชำรุดเสียหาย

สวนไทยสไตล์รีสอร์ท
และจากความกว้างของเนื้อที่ที่เหลือ ก็สามารถจัดเป็นสวนขนาดย่อมๆ ได้ โดยคุณหมอเน้นสวนที่มีความโปร่ง เป็นเหมือนรีสอร์ทมีต้นไม้ใหญ่บ้างแต่ไม่ให้ดูทึบ
จนปิดบังทัศนียภาพของแม่น้ำ มีศาลาริมน้ำ มีชานระเบียงไม้ริมน้ำไว้สำหรับนั่งเล่นสูดบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ใช้ก็จะเป็นการผสมผสานกัน
ระหว่างไม้ดอกกับไม้ใบ เลือกแบบที่ทนทานดูแลรักษาง่าย และเน้นไม้หอมแบบไทยๆ เพื่อจะได้ส่งกลิ่นหอมๆ ยามพักผ่อนได้ ซึ่งถ้าเป็นไม้ดอกต้นเล็กๆ อย่างกล้วยไม้
คุณหมอพิมพรก็จะเป็นผู้ดูแลตัดแต่งเอง แต่ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มที่ต้องตัดแต่งให้เป็นรูปทรงที่สวยงามคุณหมอก็จะจ้างคนงานมาดูแลตัดแต่งให้

เกี่ยวกับบ้าน
เจ้าของ : น.พ.สมบัติ และ พ.ญ.พิมพร สันติภาษ
ลักษณะบ้าน : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 3.5 ไร่
ราคาที่ดิน : ตารางวาละ 4,000 บาท
ค่าก่อสร้าง : 35 ล้านบาท
ออกแบบบ้าน : คุณนฤต รัตนพิเชฏฐชัย
อินทรีเรียดีไซน์ : คุณประภาส สุทธิอำนวยกุล
ออกแบบสวน :คุณวุฒิชัย สุวรรณรักษ์
บรรยายภาพ
1.พื้นที่ภายนอกมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ จัดเป็นสวนแบบโปร่ง มีต้นไม้ใหญ่ประปราย ก่อเป็นเขื่อนยกระดับจากน้ำขึ้นมาด้วยหินธรรมชาติ มีเสารั้วปูนขนาดเตี้ยๆ ล้อมรอบ มีทางลาดลงสู่แม่น้ำปูด้วยปูนเปลือย 2 ข้างทางทำเป็นขั้นบันได

2.ทางเดินที่กว้างขวางปูด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้ม มองไปด้านหน้าจะเห็นศาลาและชานระเบียงไม้ เห็นศาลขนาดใหญ่ และมีทางเดินลงไปสู่แม่น้ำ ที่เล่นเจ็ตสกีของผู้รักความเร็ว

3.ห้องรับแขกหรือที่เรียกกันว่าห้องโฮมเธียเตอร์เป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัว ห้องเป็นสีขาว เพดานเจาะช่องสี่เหลี่ยมสำหรับซ่อนไฟ มีชุดโซฟารับแขกขนาดใหญ่สีครีมสำหรับทุกคน ประตู-หน้าต่างทรงสูงเป็นกระจกใส ซ้อนด้วยประตูมุ้งลวดบานพับเพื่อให้สามารถเปิดรับลมธรรมชาติภายนอก

4.ห้องทำงานด้านในที่อยู่ระหว่างโถงทางเดิน บิวท์อินด้วยตู้ใส่หนังสือ 2 ข้าง อีกด้านเป็นหน้าต่างกระจกใสบานกว้างเพื่อมองเห็นบรรยากาศด้านนอก ด้านล่างของบานกระจกทำบิวท์อินม้านั่งขนาดยาวทรงเตี้ย ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ กลางห้องมีโต๊ะไม้กลมๆ ขนาด 4 ที่นั่ง สำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือทำงาน ในบรรยากาศเหมือนหอสมุด

5.ห้องรับแขกอยู่ตรงข้ามกับห้องโฮมเธียเตอร์ ซึ่งมีรูปแบบการตกแต่งออกแนวเป็นทางการ ใช้สำหรับต้อนรับแขกผู้ใหญ่ มีประตูบานพับไม้กรุด้วยกระจกใสแต่งลายไว้สำหรับกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนเมื่อใช้งาน

6.บริเวณห้องครัวแบบฝรั่งที่มีพื้นที่เชื่อมกับห้องอาหาร กั้นสัดส่วนพื้นที่ด้วยเคาน์เตอร์ไม้ทาสีขาวสลับ TOP ด้านบนเป็นหินแกรนนิตสีดำ ผนังด้านในบางส่วนปูด้วยกระเบื้องสีเขียว ส่วนผนังด้านนอกกรุด้วยกระจกเงาเต็มพื้นที่ แยกส่วนของห้องครัวไทยไว้ด้านนอก

7.ห้องพระขนาดใหญ่ภายในชั้น 2 ของบ้าน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินเป็นไม้สีธรรมชาติทำเป็นชั้นขั้นบันได เจาะเว้นส่วนตรงกลางเห็นผนังปูนเปล่าแต่งแต้มความสวยงามด้วยการวาดภาพสีน้ำมันเป็นรูปต้นโพธิ์โดยใช้สีเลือดหมูและสีทองดูเคร่งขรึมน่าศรัทธา เพดานส่วนหนึ่งเจาะเป็นอาร์คโค้งกรุด้วยไม้

8.ห้องอาหารขนาดใหญ่สีขาวที่เชื่อมกับห้องครัว ตกแต่งแบบเปิดโล่งด้วยหน้าต่างบานเลื่อนที่เป็นกระจกใสขนาดใหญ่สามารถมองเห็นต้นไม้และสายน้ำ ผนังด้านข้างบิวท์อินเป็นตู้โชว์ มีโต๊ะอาหารไม้ชุดใหญ่สำหรับ 10 ที่นั่ง เป็นอีกห้องหนึ่งที่รวบรวมสมาชิกในบ้านได้อย่างพร้อมหน้ากัน

9.ห้องนอนใหญ่ที่ตกแต่งแบบเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ผนังส่วนหัวเตียงกรุด้วยแผงไม้สีน้ำตาลตีเป็นตารางสี่เหลี่ยมแบบข้าวหลามตัดด้วยเส้นสีน้ำตาลเข้มๆ 2 ข้างเตียงเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งทำเป็นชั้นด้วยกระจกสำหรับวางของโชว์ ข้างเตียงเป็นประตูกระจกใสบานเลื่อนขนาดใหญ่

10.ห้องนอนเล็กของลูก หวานเย็น ๆ ด้วยโทนสีฟ้า ผนัง 2 ข้างบิวท์อินเป็นชั้นวางของสีฟ้าสลับขาว ผนังส่วนหัวเตียงเจาะเป็นโค้งเข้าไปและติดด้วยวอลล์เปเปอร์รูปภาพ ดูเหมือนงานเขียนขนาดใหญ่ มีประตูบานเลื่อนกระจกพ่นฝ้าสำหรับกั้นส่วนห้องแต่งตัวและห้องน้ำ