เพราะเป็นแบบอย่างการออกแบบมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ แนวการออกแบบแนว contemporary นี้ เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นแบบที่ร่วมสมัยจริงๆ แม้ว่าเวลาผ่านเลยมากว่า 73 ปีแล้ว (บ้านนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 1935) ก็ไม่รู้สึกว่าบ้านหลังนี้เก่า หรือเชยแต่ประการใด แต่บ้านที่สร้างกันแนวอื่นๆที่ไม่ร่วมสมัยนี่ ผ่านมาไม่เกิน 20 ปี ก็ดูเชยเสียแล้ว ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเสียแล้วเพราะทายาทของ Kaufmann ได้ยกบ้านหลังนี้ให้กับ Western Pennsylvania Conservancy ไปตั้งแต่ปี 1964 แล้ว จึงได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้คนทั่วไปได้เข้าชม แต่เขาก็อนุรักษ์ตัวบ้านไว้ทุกอย่างที่ Frank Lloyd Wright ได้ออกแบบไว้ ไม่ได้ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด เพียงแต่ต้องคอยซ่อมแซมให้คงสภาพดีไว้ดังเดิม เพราะจนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าเยี่ยมชมบ้านหลังนี้เกือบ 5 ล้านคนเข้าไปแล้ว











บ้านน้ำตกนี้ ตั้งอยู่ที่ Mill Run รัฐ Pennsylvania ใกล้กับ Pittsburgh เป็นบ้านของนาย Edgar J. Kaufmann Sr. ตัวบ้านออกแบบให้ตั้งคล่อมน้ำตกเลยทีเดียว โดยสามารถนั่งดูน้ำตกได้ในตัวบ้าน หรือนอนฟังเสียงน้ำตกได้ตลอดคืน บ้านหลังนี้นับเป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Frank Lloyd Wright เป็นอย่างมาก จนมีชื่อโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งตัวเขาเอง และบ้านน้ำตกหลังนี้









ในตอนแรก Kaufmann มีความคิดที่จะสร้างบ้านพักผ่อนขึ้นเพื่อชมวิวน้ำตก แต่เมื่อ Frank Lloyd Wright จะออกแบบงานนี้ เขาได้ทำการสำรวจบริเวณน้ำตกโดยรอบอย่างละเอียด แล้วจึงนำเสนอแนวความคิดที่จะสร้างบ้านขึ้นคล่อมน้ำตกเสียเลย บ้านหลังนี้จึงมีความโดดเด่นทั้งเรื่องการออกแบบ และที่ตั้งท่ามกลางธรรมชาติอย่างแนบสนิทเลยทีเดียว แม้กระทั่งในห้องนั่งเล่น มีแท่งหินก้อนใหญ่ของน้ำตกโผล่ขวางเตาผิงอยู่ ก็ไม่ได้ตัดออก คงเอาไว้ตามสภาพเดิมและปูพื้นด้วยวัสดุที่คล้ายคลึงกัน แต่ธรรมชาติก็สร้างปัญหาให้กับตัวบ้านด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของความชื้น ที่มากเกินพอ และปัญหาน้ำรั่วซึมที่มีอยู่ตลอด









ตัวบ้านไม่ได้สร้างให้ใหญ่นัก แม้แต่ห้องนอน ก็มีขนาดเล็ก เพื่อไม่ให้บ้านมีขนาดใหญ่โตเกินไป จึงแยกส่วนบริการ และโรงรถออกไปอีกส่วนหนึ่ง พร้อมทั้งสระว่ายน้ำที่ใช้น้ำจากน้ำตกไหลผ่านเข้ามาเลย โดยไม่ต้องมีระบบกรองน้ำแต่อย่างใด เพราะน้ำก็จะไหลเวียนถ่ายเทอยู่ตลอดเวลาตามธรรมชาติ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดของตัวบ้านกลับเป็นระเบียงกว้างๆ เพื่อชมวิวของธรรมชาติ โดยรอบเสียมากกว่า เนื่องจากเขามีฤดูมากกว่าเราอยู่หนึ่งฤดู แต่ละฤดู ต้นไม้และสิ่งแวดล้อมก็จะมีสีสันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ธรรมชาติแบบนี้จึงเป็นที่ใฝ่ฝันของคนโรแมนติกทั้งหลายเป็นพิเศษ