หลักการแต่งบ้านสไตล์บาหลี
หลักในการแต่งบ้านสไตล์บาหลีนั้น จะว่าไปก็ดูไม่ยุ่งยากอะไร เพราะถ้ามองกันในแง่ของสภาพอากาศบ้านเรา ซึ่งอยู่ในเขตร้อนชื้นเช่นเดียวกับประเทศอินโดนีเซีย การแต่งบ้านสไตล์นี้น่าจะเหมาะสมและใกล้เคียงกับความเป็นอยู่ของคนไทยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งวัสดุที่เลือกใช้ก็สามารถหาได้ง่าย ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่มีในบ้านเราแทบทั้งสิ้น
รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ ของใช้และของประดับก็มีให้เห็นเกลื่อนกลาดในตลาดของตกแต่ง ไม่ว่าจะตามห้างสรรพสินค้า ร้านขายของตกแต่งบ้าน หรือ แม้กระทั่งในตลาดนัดสวนจตุจักรและที่สำคัญ ราคาไม่แพงเลย
การเลือกใช้วัสดุ
วัสดุเป็นองค์ประกอบสำคัญที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของบ้านได้เป็นอย่างดี บ้านอารมณ์บาหลีต้องเลือกใช้วัสดุที่ให้สัมผัสแห่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัส สีสันที่แสดงออกถึงความสดชื่น อบอุ่น
ไม้ : เป็นวัสดุหลักที่ นิยมใช้ในการตกแต่งบ้านเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานตกแต่งสไตล์บาหลี หากขาดไม้คงทำให้บ้านนั้นขาดชีวิตชีวา และความเป็นเอกลักษณ์อย่างแน่นอน หากเป็นบ้านแบบบาหลีขนานแท้ โครงสร้างทั้งภายในและภายนอกจะใช้ไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นพื้น เสา ผนัง และฝ้าเพดาน
หากเป็นไปได้ บางส่วนของบ้านควรเลือกไม้ ที่มีลักษณะเนื้อบางเบา เพราะจะช่วยทำให้บรรยา กาศของบ้านดูโปร่งสบาย ไม่ทึบและหนักจน เกินไป ลักษณะพื้นผิวของไม้ที่มีทั้งส่วนเรียบง่าย และงานไม้แกะสลักเสลาสวยงาม ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ช่างของคนพื้นถิ่นแถบบาหลีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ
ลวดลายที่เห็นกันเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นลายดอกไม้และลายกระหนกคล้ายกับของไทย การนำมาใช้งานนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของการตกแต่ง อาทิ วงกบประตู, ธรณีประตู, บานเฟี้ยม ฯลฯ
หินทราย : เป็นวัสดุธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวสัมผัสและความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างดี เป็นวัสดุที่มาช่วยเบรกความอบอุ่นของเนื้อไม้ ให้อารมณ์แตกต่างไม่น่าเบื่อ อยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่ดูมากจนเกินไป ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก อาทิ กำแพงน้ำตกในสวน, พื้นและผนังห้องน้ำ, ผนังภายในบาง ส่วน ฯลฯ
เฟอร์นิเจอร์ : ที่เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์บาหลีก็หนีไม่พ้นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ทั้งตู้ โต๊ะ ตั่ง เตียง นอกจากจะทำจากไม้ล้วนๆ แล้ว รูปแบบสมัยใหม่ยังมีการผสมผสานวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ผ้า และหนัง เพื่อให้เกิดความร่วมสมัยได้มากยิ่งขึ้น แต่งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่วนใหญ่ยังคงมีกลิ่นอายของงานแกะสลักรวมอยู่ด้วย

ที่มา : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)