ป้ายด้านหน้า
       

ปติมา ธัญดารักษ์
       อย่างเช่นราย “ซีฮอส รีสอร์ต” (Seahorse-Resort) แม้จะเปิดมาได้เพียงปีเศษๆ แต่ความสำเร็จทุกวันนี้เริ่มติดลมบน ด้วยจุดขายนอกเหนือจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว ผู้เข้าพักจะได้รับความอบอุ่น และสบายใจติดตัวกลับไป
       
       ปติมา ธัญดารักษ์ หนึ่งในเจ้าของธุรกิจ เล่าว่า สไตล์การตกแต่งของซีฮอสฯ เน้นบรรยากาศของท้องทะเล โทนสีฟ้า ร่าเริง สดใส ทันสมัย แต่ไม่เป็นทางการ เพื่อให้ผู้เข้าพักจะรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนมาอยู่บ้านพักตากอากาศของตัวเอง หรือมาพักบ้านเพื่อนสนิทมากกว่าพักตามโรงแรม 5 ดาว
       
       “เวลาเราไปพักตามโรงแรมหรูๆ มันสวยมากก็จริง แต่สวยจนเราเกร็ง รู้สึกว่าที่พักแบบนี้ไม่ได้เป็นของเราเอง เราแค่มาอาศัยพักเท่านั้น แต่สำหรับซีฮอสฯ อยากให้รู้สึกว่า เขาได้มาอยู่บ้านพักของตัวเอง การตกแต่งเลยเน้นสบายๆ เรียบง่าย แต่ดูเก๋” ปติมา เผย
       
       ด้านบริการเดินไปในทิศทางเดียวกัน คือ สร้างความอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่าลูกค้ากับผู้ให้บริการ
       
       “โรงแรมทั่วๆ ไปจะมีนโยบายไม่ให้พนักงานใกล้ชิดกับแขกมากเกินไป ต่างกับเรา พยายามส่งเสริมให้พนักงานมีมนุษยสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะดิฉันเชื่อว่า ถึงแม้สิ่งปลูกสร้าง หรือห้องพักจะสวยแค่ไหน ก็เป็นแค่ภายนอก ไม่มีชีวิตจิตใจ แต่สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ อยากกลับมาพักอีกครั้ง คือ พนักงานสักคนที่เคยให้บริการเขาจนสนิทเหมือนพี่น้องกัน ซึ่งดิฉันจะบอกพนักงานอยู่เสมอว่า ดิฉันไม่ได้เป็นเจ้านายของเขา เจ้านายที่แท้จริงคือ แขกที่เข้าพัก” เจ้าของธุรกิจ อธิบายพร้อมยกอีกตัวอย่าง ซึ่งบ่งบอกถึงนโยบายการบริการของรีสอร์ตแห่งนี้ได้อย่างดี

บรรยากาศยามค่ำคืนของซีฮอสฯ
       “ปกติเวลาไปพักโรงแรม ถ้าจะซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามากิน ก็ต้องแอบหิ้ว หรือทำตัวติ๋มๆ เวลาเดินเข้ามา แต่ที่นี่ เราจะบอกได้เลยว่า ไม่รังเกียจจะซื้ออาหารเข้ามา คุณนั่งกินที่ริมสระน้ำได้เลย ถ้าซื้อเครื่องดื่มมาสังสรรค์ เราก็จะรีบจัดหาจานชาม หรือกระติกน้ำแข็งให้ สิ่งเหล่านี้ อยู่บนแนวคิดเดียวกันที่อยากให้ลูกค้าทุกคนรู้สึกสบายใจที่สุดเมื่อได้มาพักที่นี่” ปติมา กล่าว

หนึ่งในห้องพัก โดยแต่ละห้องจะตกแต่งสไตล์ต่างกัน
       จากจุดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรมแนวโมเดิร์น ผสานกับบริการที่มีแนวทางน่าสนใจ รีสอร์ตนี้แม้จะเปิดมาได้เพียงปีเศษ แต่ก็มีลูกค้าติดใจกลับมาพักเป็นขาประจำ โดยลูกค้า 85% คือ ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป พักครั้งละเป็นสัปดาห์ ส่วน 15% คือ ลูกค้าชาวไทย ที่จะมาพักผ่อนช่วงวันหยุด มีทั้งกลุ่มครอบครัว วัยรุ่น และคนทำงาน เป็นต้น

สระว่ายน้ำระบบเกลือบำบัด ขนาดใหญ่ จุดขายประจำรีสอร์ตแห่งนี้
       ที่ตั้งของซีฮอสฯ อยู่ในโซนเขาตะเกียบ ห่างจากชายหาดประมาณ 300 เมตร แม้ทำเลจะไม่ติดทะเล แต่เจ้าของธุรกิจระบุว่า ไม่ได้กระทบความรู้สึกของลูกค้าชาวต่างชาติ เพราะลักษณะนิสัยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ขอแค่อยู่ใกล้ทะเล แต่ไม่ต้องการลงว่าย หากจะเล่นน้ำจะเลือกว่ายในสระน้ำ ดังนั้น ซีฮอสฯจึงจับความต้องการนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดขาย โดยลงทุนสร้างสระน้ำขนาดใหญ่ 10x22 เมตร เป็นสระระบบเกลือบำบัด ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และผิวหนัง สามารถลืมตาในน้ำได้โดยไม่แสบ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสระระบบเกลือสูงกว่าสระระบบคลอรีนกว่า 50%

ห้อง Exotic ราคาวันธรรมดา 3,890 บ.
       พื้นที่ของรีสอร์ตแห่งนี้ รวม 3.5 ไร่ เริ่มต้นจาก 22 ห้อง ขยายเป็น 29 ห้องในปัจจุบัน แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลย ราคาพักอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 5,000 บาทต่อคืน ซึ่งกลยุทธ์ในการกำหนดราคานั้น จะสำรวจราคาจากรีสอร์ตบริเวณใกล้เคียง และคำนวณจากต้นทุนจริง ประกอบกับใช้หลักจิตวิทยา ตัดราคาในใจลูกค้า

อีกมุมของห้อง Exotic
       “ลูกค้าทุกคนเวลาเห็นรีสอร์ตแต่ละแห่ง ก็จะประเมินราคาส่วนตัวในใจไว้อยู่แล้ว ดังนั้น ราคาที่ซีฮอสฯ ตั้งไว้พยายามคาดเดาให้ถูกกว่าราคาที่ลูกค้าตั้งไว้เองในใจ ซึ่งราคานี้อาจจะสูงกว่ารีสอร์ตแห่งอื่นก็ได้ แต่ถูกกว่าราคาในใจลูกค้า ทำให้เขาไม่เกิดทัศนคติลบที่จะเข้าพัก” ปติมา กล่าวเสริม

มุมนั่งเล่น
       เมื่อย้อนถามถึงจุดเริ่มต้นของรีสอร์ตแห่งนี้ เจ้าของธุรกิจ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวเป็นชาวหัวหินโดยกำเนิด ขณะที่ส่วนตัวหลังจบการศึกษาด้านวิศวกรรมโยธา เข้าทำงานในบริษัทก่อสร้างของเอกชน เคยรับผิดชอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวหินมาหลายโครงการ จากนั้น ออกมาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของตัวเอง จนถึงจุดที่อยากมีธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว มากกว่าธุรกิจก่อสร้างที่ทำเสร็จแล้วขายไป จึงนำที่ดินของครอบครัวที่ซื้อเก็บไว้นานแล้วมาพัฒนาเป็นรีสอร์ต

       ทั้งนี้ ใช้งบประมาณเฉพาะแค่สิ่งปลูกสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่ง ไม่รวมราคาที่ดิน ประมาณ 75 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นทุนส่วนตัว กับขอสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
       
       สำหรับการทำตลาดอาศัยบอกปากต่อปาก ควบคู่กับออกงานแฟร์ท่องเที่ยว กิจการตั้งแต่เริ่มต้นถึงปัจจุบัน ก้าวไปได้ด้วยดี มีลูกค้าเข้าพักสม่ำเสมอ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ห้องพักเต็มตลอด จากแนวโน้มธุรกิจดังกล่าว เตรียมขยายซีฮอสฯ เฟส 2 เปิดเป็นห้องพักแบบอาคารชุด16 ยูนิต ลงทุนกว่า 45 ล้านบาท คาดจะเสร็จในปลายปี 2552

ภาพมุมสูงของซีฮอส
       ปติมา ทิ้งท้ายว่า แม้ปัจจุบัน ประเทศไทยจะมีปัจจัยลบหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจชะลอตัว การเมืองไม่นิ่ง และน้ำมันแพง เป็นต้น แต่ปัจจัยดังกล่าวมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหัวหินน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ ประกอบกับการปรับตำแหน่งการตลาดของหัวหินจากเมืองท่องเที่ยวสู่หมู่บ้านพักผ่อนระยะยาวของชาวต่างชาติ เชื่อว่า จะทำให้การท่องเที่ยวหัวหินมีแนวโน้มเติบโตอีกมาก อย่างไรก็ตาม ต้องควบคู่กับการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้พร้อมรองรับความเจริญที่จะเกิดขึ้นด้วย
       
       *********************
       
       โทร.032 537 111 หรือ www.seahorse-resort.com