วันนี้เราจึงขอนำเสนอ สาระความรู้เรื่อง หลังคาบ้าน มาฝาก มาดูกันคะ ว่าหลังคาบ้านของเราแบ่งได้เป็นกี่ประเภท และแต่ละแบบแต่ละประเภทเหมาะกับบ้านของเราแค่ไหน ^^
ประเภทของหลังคา
1.หลังคาแบน (flat roof)
หลังคาแบนโดยมากจะทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กค่ะ (บางคนเรียกหลังคาดาดฟ้า) จัดเป็นสไตล์อินเตอร์เนชั่นแนล หลังคาประเภทนี้ เมื่อทำด้วยคอนกรีตก็จะสะสมความร้อนไว้มาก ทำให้คายความร้อนออกมาในช่วงที่อากาศเย็นลง มากกว่าหลังคาที่มุงด้วย กระเบื้องดินเผาและกระเบื้องคอนกรีต เมื่อถึงเวลากลางคืน จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อนอบอ้าว
และหลังคาที่แบนจะมีความลาดเอียงน้อย น้ำฝนจึงมักขังอยู่บนหลังคาได้ง่าย ทำให้เกิดการรั่วซึมอยู่บ่อยๆ จึงไม่เป็นที่นิยมสำหรับบ้านเรือนที่พักอาศัย
2.หลังคาจั่ว (gable roof)
เป็นหลังคาบ้านที่เราเห็นคุ้นตาอยู่โดยทั่วไปในเมืองไทยอ่ะนะคะ เป็นรูปทรงที่มีมานาน และยังสืบทอดต่อ ๆ กันมา ตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา
เพราะหลังคาจั่ว เป็นหลังคาที่มีรูปทรงที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศอย่างบ้านเราค่ะ เนื่องจากบ้านเรามีฝนตกชุก หลังคาจั่ว สามารถระบายน้ำฝนออกไปได้เร็ว นอกจากนั้นยังป้องกันแดดได้ดี เพราะมีชายคายื่นออกไปทั้งสองด้าน
3.หลังคาทรงปั้นหยา (hip roof)
หลังคาทรงนี้ ต่างจากหลังคาจั่วตรงที่สามารถยื่นชายคาเพื่อบังแดดและฝนได้ทั้งสี่ด้าน แต่ความชันของหลังคาปั้นหยามีน้อยกว่าหลังคาจั่ว การระบายน้ำฝนและการป้องกันการรั่วซึมจึงค่อนข้างจะเสียเปรียบหลังคาจั่ว เพราะมีรอยต่อของหลังคามากกว่า
4.หลังคาเพิงหมาแหงน (LEAN TO)
เป็นหลังคาที่ยกให้อีกด้านสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้สามารถระบายน้ำฝนได้ เหมาะสมสำหรับบ้านขนาดเล็ก เนื่องจากก่อสร้างง่าย รวดเร็ว ราคาประหยัด แต่ต้องระวังให้หลังคามีองศาความลาดเอียงมากพอ ที่จะระบายน้ำฝนออกได้ทัน ไม่ไหลย้อนซึมกลับเข้ามาได้ โดยอาจพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น ความชันจากขนาดของหลังคา วัสดุมุงหลังคา และระยะซ้อนของหลังคา เป็นต้น ในกรณีที่มีโอกาสหรือความเสี่ยงที่น้ำฝนจะไหลย้อนซึมเข้ามาได้ ก็ควรใช้ความลาดชันมากขึ้นตามลำดับ เพื่อให้สามารถระบายน้ำฝนได้รวดเร็วขึ้น
5.หลังคาแบบผีเสื้อ (BUTTERFLY)
หลังคาชนิดนี้ประกอบด้วยหลังคาเพิงหมาแหงน 2 หลังหันด้านที่ต่ำกว่ามาชนกันค่ะ ไม่ค่อยเหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกชุกแบบเมืองไทยสักเท่าไร เนื่องจากต้องมีรางน้ำที่รองรับน้ำฝนจากหลังคาทั้ง 2 ด้าน ทำให้รางน้ำมีโอกาศรั่วซึมได้สูง จึงไม่เป็นที่นิยมสร้างกันมากนัก ยกเว้นอาคารที่ต้องการลักษณะเฉพาะพิเศษที่แปลกตาออกไป
6.หลังคาแบบร่วมสมัย (MODERN & CONTEMPORARY)
เป็นหลังคาที่มีรูปทรงทันสมัย แตกต่างจาก 5 แบบข้างต้น และใช้วัสดุที่ทันสมัย ก่อให้เกิดรูปทรงแปลกตา แต่ต้องระวังเรื่องความร้อนและการรั่วซึมค่ะ
การจะเลือก แบบหลังคา ใดให้บ้านของเรา นอกจากจะต้องคำนึงถึงรูปทรง ความสวยงามของบ้านแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความลาดชันของหลังคา และความคุ้มค่าของการกันแดดกันฝนด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ บ้านของเราก็จะมีทั้งหลังคาที่สวยงามและประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่าแล้วค่ะ :)