001

เจ้าของบ้านและสวนสวยแห่งนี้คือคุณปิ่น พัตราพร จารุศร
ซึ่งได้ย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ด้วยความรักและชื่นชอบ
ในศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ผู้คน และธรรมชาติที่งดงาม
โดยได้มาหาซื้อที่ทางเพื่อปลูกต้นไม้ และปลูกบ้านหลังเล็กๆ
ไว้ที่นี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536

ที่เห็นนี้คือประตูทางเข้าสู่สวน ... ทางเข้าบ้านเป็นซุ้มไม้เลื้อย
ประตูไม้บานเล็กๆ ในมุมสวนนี้ เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจ
เพราะเป็นสิ่งที่ให้ทั้งความเป็นส่วนตัว และเชื้อเชิญในที
เมื่อเปิดประตูต้อนรับ








002

ที่ดินผืนนี้เดิมเป็นผืนนาติดคลองชลประทาน
มีต้นไม้ใหญ่คือต้นตะคร้อ และมีแหล่งน้ำไหลผ่าน
ซึ่งเป็นสองเหตุผลหลัก ที่ทำให้คุณปิ่นตัดสินใจ
เลือกซื้อที่ดินผืนนี้

จากวันเริ่มแรกจนบัดนี้ คุณปิ่นได้ทุ่มเทความรัก
และเทใจให้กับการปลูกต้นไม้ในสวนแห่งนี้
จนกลายเป็นสวนสวยที่เต็มไปด้วยธรรมชาติงดงาม
มีต้นไม้สมบูรณ์ ร่มรื่น ดุจสวนป่า

ทางเดินในสวนแห่งนี้ กำหนดเป็นเส้นแนวคดโค้ง
ปูด้วยอิฐมอญ และโรยกรวดขนาดต่างๆ ทำให้ดู
กลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ








003

บ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในบ้านหลายๆ หลังที่ปลูก
อยู่ในสวนแห่งนี้
บ้านแต่ละหลังจะแทรกตัวอยู่ในกลุ่มต้นไม้
ที่ร่มรื่นเขียวขจี








004

แม้จะไม่ใช่นักจัดสวนมาก่อน แต่ด้วยใจรัก
คุณปิ่นได้ศึกษาจนเข้าใจถึงธรรมชาติของไม้ดอกไม้ใบ
ชนิดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี








005

ในมุมนี้ต้นไม้หลายกลุ่มถูกจัดไว้ด้วยกัน ทั้งเฟิร์น สับปะรดสี
คล้า เทียนญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ในร่ม

คุณปิ่นพูดถึงการจัดตกแต่งสวนว่า ต้องรู้จักวางจังหวะ
แต่งด้วยโอ่งบ้าง กระถางบ้าง จะได้ดูสนุก และไม่น่าเบื่อ








006

กลุ่มต้นไผ่ตรงทางเข้าบ้านหลังหนึ่ง ่ที่มีชื่อเรียกว่า
บ้านนก คุณปิ่นเล่าว่าได้ตั้งชื่อบ้านเป็นชื่อสัตว์ต่างๆ
ได้แก่ บ้านนก บ้านปลา และบ้านกระต่าย
เพื่อให้บ้านแต่ละหลังมีแคแรคเตอร์ของตนเอง
และง่ายต่อการออกแบบตกแต่งบ้าน

สำหรับบ้านนกนี้ จะเห็นชั้นเชิงของบันไดซึ่งทำไว้เป็นลูกเล่น
และกอไผ่ทำให้แสงสามารถผ่านเข้ามาในบริเวณนี้ได้
ทำให้ดูโปร่ง และมีมิติความลึก
จากมุมนี้มองออกไปด้านนอกจะเห็นได้ทั่ว
แต่ถ้ามองจากด้านนอกเข้ามา จะไม่เห็นคนที่อยู่ในบ้าน
ซึ่งช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ที่อยู่ในบ้าน








007

มุมนั่งเล่นได้ถูกจัดวางกระจายไว้ทั่วไปในบริเวณสวน
ซึ่งคุณปิ่นอธิบายว่า บ้านโบราณจำเป็นต้องมีมุมนั่งเล่น
เพราะต้องรับแขกผู้ใหญ่ มุมนั่งเล่นเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็น
มุมพักผ่อนสำหรับผู้ติดตาม หรือเด็กๆ ที่ตามมาด้วย








008
ชุดนั่งพักผ่อนในสวนอีกมุมหนึ่ง
บริเวณใกล้ๆ บ่อน้ำ








009

มุมนั่งเล่นบริเวณหน้าห้องครัว มีระแนงไม้เป็นที่ยึดเกาะ
สำหรับปลูกม่านบาหลีห้อยระลงสู่พื้นน้ำ และทำให้เกิด
บรรยากาศที่นุ่มนวล








010

เมื่อพูดถึงการออกแบบจัดสวน คุณปิ่นบอกว่าสิ่งที่จะ
ละเลยไม่ได้เลยคือเรื่องแสงสว่าง โดยกล่าวว่าแม้สวนแห่งนี้
จะออกแบบและจัดวางต้นไม้เป็นสวนป่า
แต่หลักการสำคัญที่สุดคือ แสงต้องเข้าบ้านได้ทั่วถึง

ที่เห็นอยู่นี้คือทางเดินในสวนอีกมุมหนึ่ง
ซึ่งเมื่อมองลึกเข้าไปจะเห็นมุมนั่งเล่น ซึ่งวางไว้เป็น
จุดพักผ่อนในสวนอีกจุดหนึ่ง








011

ระเบียงไม้ที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นในสวน
อีกมุมหนึ่ง








012

มาชมต้นไม้ต่างๆ ที่ปลูกไว้ในสวนกันบ้างนะคะ
ต้นนี้คือต้นตะคร้อ หรือต้นบะโชค
ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ในสวน








013

ต้นไผ่ ... ซึ่งปลูกเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว
ช่วยบังสายตาจากภายนอก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถ
มองทะลุจากภายในได้ เพราะไผ่มีความโปร่ง บาง
และมีระยะความลึก ทำให้สวนดูสวย มีมิติ








014
ด้านซ้ายคือ เฟิร์นกระเช้าสีดา หรือข้าวห่อยาบา
ส่วนด้านขวามือคือ ดอกข่าคม ซึ่งเป็นไม้ในกลุ่มขิง








015
เฟิร์นก้านดำ ...








016

สีแดงคือดอกสร้อยระย้า และด้านขวามือคือ
ดอกโคลงเคลงเลื้อย ซึ่งเป็นไม้คลุมดินที่ให้ดอกสีม่วง
บานเต็มไปทั้งสวน





นอกจากดอกไม้ต่างๆ ดังกล่าว ในสวนแห่งนี้
ยังเต็มไปด้วยไม้ดอกพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะดอกไม้ไทยโบราณ
เช่น จันทน์กะพ้อ





017

เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย ซึ่งสปอร์ของมันจะปลิวไปตก
และงอกขึ้นมาเกาะตามต้นไม้อยู่ทั่วไปในสวน
ในบริเวณที่มีความชื้นพอเหมาะ และแสงแดดพอดี








018

ต้นไม้ในกลุ่มดาหลา และเฮลิโคเนีย ซึ่งเมื่อโตเต็มที่
จะมีกอขนาดใหญ่มาก และบางครั้งอาจล้มหรือเอียงเกะกะ
ออกมานอกทางเดิน จึงได้มีการใช้ไม้ไผ่สานเป็นรั้ว
ช่วยพยุงกั้นแนว ทำให้ดูเป็นระเบียบขึ้น








019

"ถังขยะ" ที่วางไว้ตามจุดต่างๆ ในสวน ซึ่งนับว่า
เป็นถังขยะที่มีคุณสมบัติการใช้งาน และรูปลักษณ์
ที่เหมาะสมกับสวนป่าแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง








020

ตามมุมต่างๆ ของบ้าน จะมีโอ่งดินเผา ที่มีมอสเขียวครึ้มเกาะอยู่
ซึ่งคุณปิ่นได้แนะนำว่า หากต้องการให้มีมอสเขียวๆ
เกาะโอ่งน้ำเร็วยิ่งขึ้น วิธีการหนึ่งคือให้วางโอ่งน้ำใต้ร่มไม้
ที่มีแดดส่องถึงรำไร รดน้ำบ่อยๆ ทั้งการรดให้โดนโอ่งโดยตรง
และฉีดน้ำพ่นทั่วบริเวณให้เกิดความชื้นสูง มอสและตะไคร่
ก็จะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิม








021

นอกจากจะเลือกใช้หัวก๊อกน้ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น นก
กระต่าย กบ ฯลฯ เข้ากับบรรยากาศสวนแล้ว
ที่สวนแห่งนี้ยังเลือกใช้รางข้าวหมูเก่าเจาะรูทำเป็นอ่างล้างมือ
เป็นการสร้างธรรมชาติในธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน








022

สำหรับไฟส่องสว่างในสวน คุณปิ่นได้ใช้ไม้แป้นเกล็ด
ที่เหลือจากใช้มุงหลังคาบ้าน มาแต่งให้เป็นบ้านหลังน้อยๆ
ที่ให้แสงสว่างยามค่ำคืน








023

ก่อนออกจากสวน เรามาชมแผนผังที่ตั้งของสถานที่ต่างๆ
ในสวนแห่งนี้กันสักหน่อยนะคะ

1. ทางเข้าบ้านซึ่งเป็นซุ้มไม้เลื้อย
2. ต้นตะคร้อใหญ่
3. กลุ่มต้นไผ่
4. บ้านนก
5. บ้านปลา
6. บ้านกระต่าย
7. ครัวที่แยกออกมาต่างหาก ด้านหน้าเป็นบ่อน้ำ
    ที่มีมุมนั่งเล่น และระแนงม่านบาหลี
8. ศาลาริมน้ำ สร้างไว้เพื่อนั่งเล่น หรือทำกิจกรรมสนุกๆ
    เมื่อมีแขกมาเยือน เช่น จัดให้มีละครมาแสดง
    หรือใช้เป็นที่พายเรือพักผ่อน
9. บ่อที่ขุดขึ้นมา และออกแบบให้โค้งเหมือนแม่น้ำผ่านเข้ามา
    เมื่ออยู่ในสวนจะมองไม่เห็นทั้งส่วนปลาย
    หรือส่วนต้นของบ่อน้ำนี้ และในบ่อนี้จะมีน้ำไหลผ่านเข้า
    และออกคลองชลประทาน เพื่อไม่ให้น้ำนิ่ง เน่าเสีย
10. ทางเดินในสวนซึ่งวางเป็นแนวคดโค้ง ปูด้วยอิฐมอญ
    และโรยกรวดชนิดต่างๆ เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ
    ลักษณะสวนป่า
11. จุดเบรกสายตาในสวน หรือจุดพักเดิน
    เพื่อให้สวนมีลูกเล่น มีระยะ
12. ชุดรับแขก หรือม้านั่ง ที่วางเป็นมุมส่วนตัวของบ้านแต่ละหลัง
    ซึ่งช่วยให้บ้านแต่ละหลังมีความเป็นเอกเทศ ไม่รบกวนกัน
    และมีมุมสงบของตัวเอง
13. ชุดม้านั่งด้านนอก ซึ่งวางไว้ทั่วบริเวณสวน









024

หวังว่าการเที่ยวชมสวนสวยอารมณ์ธรรมชาติสวนป่า
ของคุณปิ่นในครั้งนี้ อาจมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับคนรักสวน ให้ลุกขึ้นมาปลูกต้นไม้ดอกไม้
และสร้างสวนที่สวยงามร่มรื่นเช่นนี้กันได้บ้างนะคะ